วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

สรวง สันติ

มีนักร้องคนหนึ่งในสมัยก่อนโน้นที่ผมชอบมากๆ คือชอบบทเพลง ชอบลีลา ชอบแบบบ้าๆดิบๆของแก ตอนนั้นไม่รู้ผมเรียนชั้นไหน  สมัยที่ยังเรียนอยู่ที่ จ.ยะลา นานมาแล้ว สรวงสันติ ไปเล่นที่ห้องส่งสถานีฯวิทยุ วปถ 5 ที่จังหวัดยะลา ไม่พลาดครับผมไปดู เดินไปคนเดียวอยากจะไปดูน้าสรวงสุดยอดในดวงใจ สตริงแนวอันเดอร์กราวด์ ร็อคใต้ดินหรือแนวอะไรไม่รู้ มันนานมาแล้วแกมักจะใส่กางเกงแดงเสื้อแดง (ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับ นปช.) เข็มขัดและหมวกจะเป็นสีเดียวกัน ไม่แน่ใจว่าขาวหรือดำ

แต่โดยแท้จริงแล้วผมจะชอบบุคลิกส่วนตัว
เพลงสมัยนั้นดังๆ    หลายเพลงที่ผมชอบคือ
น้ำมันแพง , เมียตัวอย่าง และอีกหลายเพลงมากกว่า (ชอบแบบ บ้าๆ บอๆ ดิบๆ แต่เก่ง) นานมาหลายปีจนถึงวันที่น้าแกเสียชีวิตถึงได้รู้ว่าแกเป็นอัจฉริยะ เป็นนักแต่งเพลงที่แต่งได้ไพเราะเพราะพริ้ง แต่จะให้คนอื่นร้องจนโด่งดัง ส่วนตัวน้าเองเลือกเอาแต่ที่สนุกมันส์ฮา ไปดูประวัติจากเว็ปที่ลอกมาครับ


สรวง สันติ ถือว่าเป็นตำนานบทหนึ่งของวงการลูกทุ่งเมืองไทย ได้ชื่อว่าเป็นนักแต่งเพลงอัจฉริยะคนหนึ่งของวงการ เป็นลูกทุ่ง underground รุ่นแรกของเมืองไทยสรวง สันติ มีชื่อจริงว่า จำนงค์ เป็นสุข เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 5 มิ.ย. 2488 ที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 5 ต.บ้านไร่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย บิดาชื่อนายสุ่ม มารดาชื่อนางจำรัส เป็นสุข เป็นลูกคนที่ 3 ในจำนวน 4 คน จบการศึกษาชั้น ม.6 จากโรงเรียนการช่างสุโขทัย ก่อนเข้าสู่วงการเพลง เคยชกมวยมาก่อน โดยใช้ชื่อว่า เกรียงศักดิ์ เทพบดี

J
                 


เมื่อปี 2505 ครูพิพัฒน์ บริบูรณ์ ได้นำวงไปทำการแสดงที่ จ.สุโขทัย ก็จึงลองไปสมัครดู ครูพิพัฒน์ได้ฟังเสียงก็รับเข้าอยู่ประจำวง และให้บันทึกเสียงเพลงชุดแรก คือ "มดแดงเฝ้ามะม่วง”และ “ลุงฉิ่ง” โดยตั้งชื่อให้ว่า “ดาว มรกต” แต่ไม่ดัง

เขาอยู่กับวงพิพัฒน์ บริบูรณ์ได้ 2 ปี ก็ลาออก พร้อมกับ นฤมล สมสมร หรือ น้ำผึ้ง บริบูรณ์ นักร้องสาวประจำวง ซึ่งได้รู้จักชอบพอจนเป็นแฟนกัน ต่อมาได้ไปสมัครอยู่กับวงกระดิ่งทอง ของศรีไพร ใจพระ โดยมีเพื่อนแท้อย่างแดนชัย สนธยา คอยให้ความช่วยเหลือ

เขาอยู่กับศรีไพร ใจพระ ได้ไม่นานก็ลาออก และเมื่อ 24 มิถุนายน 2509 ก็ไปสมัครอยู่กับวงดนตรีจุฬารัตน์ของครูมงคล อมาตยกุล






จากข้อเขียนของ ครูมงคล อมาตยกุล ทำให้เราทราบว่าสรวง สันติเข้ามาอยู่กับวงดนตรีจุฬารัตน์ในฐานะนักแต่งเพลง ซึ่งมีเกียรติศักดิ์ มีศักดิ์ศรี มีวิชาความรู้ ได้รับการยกย่องมากกว่าการเป็นนักร้อง แต่เพราะความต้องการเป็นนักร้องของเขามีมากกว่า ใจเรียกร้อง ต้องการอยากเป็นนักร้องและมั่นใจว่าตนเองก็ร้องเพลงดูได้ จึงกล้าลดชั้นตนเองเข้าไปบอกกับครูมงคล ขอเป็นนักร้องมากกว่าจะเป็นนักแต่งเลยต้องเจอบททดสอบประมาณว่าต้องเป็นคนใหม่นะ ต้องแบกหามนะ ต้องวิ่งซื้อโอเลี้ยงนะ ต้องยอมรับใช้คนทั้งคณะ พวกรุ่นพี่ๆ ที่เขาอยู่มาก่อนนะ ซึ่งไม่ว่าจะต้องทำอะไร ความต้องการเป็นนักร้องของ สรวง สันติ ก็ทำให้เขาต้องยอมทุกอย่าง

ครูมงคลตั้งชื่อให้ใหม่ว่าสรวง สันติ และได้ออกร้องเพลงครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์ปัตตานี และต่อมาได้บันทึกเสียงสมใจและเพียงแค่ได้อัดแผ่นเสียงเพลงแรกเมื่อ 31 ส.ค.2509 เท่านั้น เพลงแฟนใครแฟนมัน ก็ได้รับความนิยมชมชอบจากแฟนเพลงทันที เพลงติดอันดับ 1 ถึง 3 สัปดาห์ ไม่นับอันดับอื่นๆ อีก

เพลงที่สองของ สรวง สันติ ที่ตามออกมาเมื่อไม่กี่วันก็คือเพลง ''รักเมียเสียเพื่อน'' ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพลงที่ดีอีกเพลงหนึ่งแต่ไปๆมาเขาก็กลับไม่เกิดในฐานะนักร้องอีกนั่นแหละ เขาได้ร้อง แต่ไม่ค่อยมีผลงานสักเท่าไหร่ แต่กลับดังในฐานะนักแต่งเพลงมากกว่า โดยมีผลงานเพลงทั้งร้องเองและแต่งให้นักร้องอื่นร้องมากมาย เช่นแฟนใครแฟนมัน ,ไม่ใกล้ไม่ไกล ,มันบ่แน่หรอกนาย ที่เขาร้องเอง กับ สุขีเถิดที่รัก ที่แต่งให้พนม นพพร ร้อง  เขาอยู่กับวง “จุฬารัตน์” 6 ปี อยู่จนวงจุฬารัตน์ยุบวง ก็เลยออกมาตั้งวงเอง ชื่อวงเดอะบัฟฟาโล่

เดอะบัฟฟาโล่ เขามีชื่อเสียงในการนำดนตรีไซคีเดลิคและฮาร์ดร็อคไปใส่ในเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 แต่แม้จะร้องเพลงร็อค เขาก็ยังไม่ดัง แต่กลับดังเรื่องการเป็นร็อคเกอร์ คือเป็นนักดนตรีร็อคของไทยรุ่นแรก ๆ ที่เผาเสื้อ เผากีตาร์ เผากลอง ฟาดกีตาร์กับเวที เล่นจริง เผาจริง ฟาดจริง

เขาตั้งวงอยู่ได้ประมาณ 3 ปี ก็เลิก หันมาแต่งเพลงอย่างเดียว แต่คราวนี้กลับดังระเบิดเถิดเทิง เพลงไหนเพราะ ๆ หวาน ๆ ซึ้ง ๆ สรวงให้คนอื่นร้องหมด อันไหนดิบ อันไหนตลก สรวงร้องเอง และตอนกลับมาร้องลูกทุ่ง ก็ยังคงเผากีตาร์ เผากลองอยู่เหมือนเดิม แต่ก็ทำให้ดังกันไปทั้งคู่ โดยเฉพาะยุคหลัง ๆ ก่อนที่สรวงจะเสียชีวิต เขาประกาศศักดาในฝีมือด้วยการเขียนเพลงได้หลากหลายแนวกระทั่งเพลงลูกกรุงหรือเพลงสตริงก็ทำได้ดีเลิศ

เพลงที่ดังๆของในยุคนี้ที่เขาแต่งเองร้องเอง เช่น ผู้ยิ่งใหญ่ , น้ำมันแพง , 1-2-3 ด่วน 2 แถว ที่แต่งให้คนอื่นร้อง เช่น  สาว ต.จ.ว. ไพจิตร อักษรณรงค์ ร้อง รักสิบล้อต้องรอสิบโมง และสวยในซอย วงรอยัลสไปรท์ ร้อง ส่วนเกิน ดาวใจ ไพจิตร ร้อง สำหรับเพลงอื่นๆที่เขาแต่งก็มีเพลงหนุนของต่างแขน แต่งให้ พนม นพพร เพลงคอแห้งเป็นผง แต่งให้ประจวบ จำปาทอง เพลงด่วนจี๋ไปรษณีย์จ๋า แต่งให้ เสียงทิพย์ ปทุมทอง เพลงจองไว้ก่อน แต่งให้ แมน เนรมิต เพลงข้อยเว้าแม่นบ่ และเอาใจฉันตั้งแต่วันนี้ แต่งให้ นันทิดา แก้วบัวสาย และฯลฯ

สรวง สันติ เป็นคนเงียบขรึม รักเพื่อนฝูง ชอบใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ จึงมีเพลงที่ได้ผลิตออกมาจากมันสมองของเขาอยู่เรื่อยๆ เขาเป็นคนช่างคิดช่างฝัน มีอารมณ์ขันเป็นบางเวลา บางครั้งคนอื่นเขาขันกันแทบตาย แต่ สรวง สันติ ไม่ขันเลย อย่างนี้เขาเรียกว่า คนเส้นลึก บางเรื่องบางราว ใครๆ เขาขันและหัวเราะกันวันนี้ แต่ สรวง สันติ ไปหัวเราะเอาวันรุ่งขึ้นไม่ใช่อะไรดอกครับ เพราะความที่เป็นคนช่างคิดช่างฝันก็เลยทำให้กลายเป็นคนใจลอยไป

แต่เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2525 เวลา 23.00 น.โดยประมาณ ขณะเดินทางไปจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมกับหมอเอื้ออารีย์ หรือ วิรวด ปานเจริญ นักวิ่งเชียร์แผ่นเสียงที่มีชื่อเสียงขนาดต้องเรียกว่าเป็นระดับเจ้าพ่อ รวมถึง  ศักดิ์รินทร์ วัชระศักดิ์, และมีผู้หญิงอีก 1 คน เพื่อนำแผ่นของลูกศิษย์คนใหม่ คือ “ชิตณรงค์ ไผ่ทอง” ไปโปรโมท ระหว่างทางรถเก๋งที่ขับไปเกิดชนประสานงากับรถสิบล้อ ทำให้ “เอื้อ อารีย์” , ศักดิ์รินทร์ วัชรศักดิ์” และผู้หญิงที่นั่งไปด้วยเสียชีวิตคาที่ ส่วน “สรวง สันติ” ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ในวันรุ่งขึ้นคือ 23 ม.ค.2525 ท่ามกลางความเศร้าสลด เสียดาย และอาลัยอาวรของญาติพี่น้อง ตลอดทั้งแฟนเพลงทั่วประเทศ

สรวง สันติ เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 37 ปี และมีบุตร 3 คน คือเด็กหญิงแจ่มใส, เด็กชายอยู่ยง-คงกระพัน ซึ่งเป็นคู่แฝดครับทั้งน่าเสียใจ น่าร้องให้ น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง น้าสรวง คืออัจฉริยะ ศิลปินในดวงใจผมครับ
                                                                         bananabrn กล้วย บ้านระโนด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น